6 มีนาคม 2025

THE MASTER

ย่อโลกข่าวไว้ในมือคุณ

ธ.ก.ส. เปิดตัว “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินทำการเกษตรคู่ขนาน รองรับการเข้าสู่ Aging Society สูงสุด 8 ล้านบาท

   ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ ส่งเสริมการดึงคนกลับเข้าสู่ภาคการเกษตร กรอบวงเงินรวม 3.75 หมื่นล้านบาท สานฝันบุคลากรภาครัฐและเอกชนที่มีรายได้ประจำอายุ 50 – 59 ปี สร้างรายได้คู่ขนานจากการทำการเกษตร และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าเกษตรไปสู่เกษตร มูลค่าสูง วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 8 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก MRR – 2 และปีที่ 6 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR แจ้งความประสงค์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ประจำเป็นรายเดือน สามารถวางแผนการสร้างรายได้คู่ขนานจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรืออาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรในวัยก่อนและหลังเกษียณ รองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society)  เพิ่มการเกษตรที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม สร้างสินค้าเกษตรมูลค่าสูง ลดปัญหาโลกร้อนและฝุ่น PM 2.5 ธ.ก.ส. จึงได้จัดโครงการสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ ให้กับบุคลากรภาครัฐหรือพนักงานองค์กรเอกชน อายุตั้งแต่ 50 – 59 ปี ที่มีรายได้ประจำเป็นรายเดือน เพื่อนำไปเป็นค่าลงทุนซื้อที่ดินทางการเกษตรเพื่อประกอบอาชีพภาคการเกษตรและอาชีพที่เกี่ยวเนื่อง เนื้อที่ไม่เกิน 20 ไร่ วงเงินกู้รายละไม่เกิน 8,000,000 บาท ทั้งนี้ ผู้กู้ต้องนำรายได้เข้าบัญชี เพื่อหักชำระหนี้เป็นรายเดือน มีแผนการประกอบธุรกิจหรืออาชีพเกษตรกรรมหรืออาชีพที่เกี่ยวเนื่องในภาคเกษตรกรรม ตั้งแต่ก่อนและหลังเกษียณอายุ โดยสามารถเริ่มดำเนินโครงการตามแผนที่วางไว้ได้ภายใน 3 เดือน นับถัดจากวันที่รับเงินกู้ รวมถึงมีแผนชำระเงินกู้ก่อนการเกษียณอายุด้วยเงินเดือนหรือรายได้ประจำ และแผนชำระเงินกู้หลังจากเกษียณอายุจากรายได้ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและอาชีพที่เกี่ยวเนื่อง อัตราดอกเบี้ย MRR – 2 ต่อปี (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR เท่ากับร้อยละ 6.725 ต่อปี) หรือเท่ากับร้อยละ 4.725 ต่อปี ในช่วง 5 ปีแรก และปีที่ 6 เป็นต้นไป อยู่ที่ MRR  ต่อปี กำหนดชำระคืนไม่เกิน 20 ปี นับตั้งแต่วันกู้ กรอบวงเงินสินเชื่อรวม 37,500 ล้านบาท

โครงการสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ นอกจากจะส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ประจำที่เตรียมแผนเกษียณอายุมีรายได้คู่ขนานจากการทำการเกษตร เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตหลังเกษียณแล้ว ยังช่วยให้ผู้ที่เป็นเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงมีรายได้เสริมจากการจ้างงานในการทำการเกษตรและดูแลพื้นที่เพาะปลูกให้กับผู้กู้ที่เข้าร่วมโครงการ   ซึ่งทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจระดับชุมชนต่อไป” นายฉัตรชัย กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถแจ้งความประสงค์ขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และอนุมัติเงินกู้ภายใน 31 มีนาคม 2572 (เงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02 555 0555

 

Skip to content