สนั่น ส่งไม้ต่อ ดร.พจน์ ก้าวขึ้นแท่นประธานหอการค้าไทยคนที่ 26 สานต่อภารกิจพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย

ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ก้าวขึ้นแท่นประธานหอการค้าไทยคนที่ 26 พร้อมนำพาหอการค้าไทยก้าวสู่ยุคใหม่  มุ่งสร้างความเชื่อมั่นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมใหญ่สามัญสมาชิก หอการค้าไทย ประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 27  มีนาคม 2568 มีมติเลือกตั้งคณะกรรมการหอการค้าไทยชุดใหม่ วาระปี 2568-2569 รวม 76 คนที่หมดวาระลง และได้มีมติให้ ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการหอการค้าไทย คนที่ 26  นับเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของหอการค้าไทยสู่ยุคใหม่  ที่พร้อมรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ

ด้าน นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานอาวุโสหอการค้าไทย  ได้กล่าวชี้แจงกรณีความโปร่งใสในการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ว่า ยืนยันความโปร่งใสของกระบวนการเลือกตั้ง  ซึ่งการเลือกตั้งดำเนินไปอย่างราบรื่น  เปิดโอกาสให้สมาชิกได้ซักถามและแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่

“การเลือกตั้งคณะกรรมการทุกคนมีโอกาสหมด มีการให้สมาชิกสมัครเข้ามา  และในที่ประชุมก็จะถามว่า ใครยังอยากสมัครเราก็เปิดโอกาสให้เสนอชื่อเข้ามาได้ ไม่ได้จำกัด อาจจะ 100 คน และก็จะทำการเลือกหนึ่งจาก 76 คน ใครได้คะแนนสูงสุด จะได้รับคัดเลือกเป็นคณะกรรมการ ซึ่งคณะกรรมการที่เสนอชื่อในครั้งนี้ได้คัดจากสมาชิกทั่วประเทศ“  จำนวนการเสนอรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็นคณะกรรมการการประชุมมีทั้งหมด 76 คน พอดีกับจำนวนที่จะได้รับคัดเลือก และ ในที่ประชุมได้มีสมาชิกขอเสนอชื่ออีกหนึ่งคนเพิ่มเข้าไปเป็นรายชื่อที่ 77 คน  นายสนั่น กล่าว

ซึ่งในการเลือกตั้งคณะกรรมการในครั้งนี้ภารกิจสำคัญของ ดร.พจน์ และทีมงานหอการค้าไทยยุคใหม่  มุ่งเน้น 4 ด้านหลัก:

• ส่งเสริมการส่งออกและดึงดูดการลงทุน: ดร.พจน์ ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจอาหารทะเลและอาหารแปรรูป  พร้อมนำความเชี่ยวชาญมาใช้ในการผลักดันการส่งออกสินค้าไทยสู่ตลาดโลก  และดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ  โดยเฉพาะการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA)  และการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI)  เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทย
• แก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ SMEs: การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนเป็นอีกหนึ่งภารกิจเร่งด่วน หอการค้าไทยจะร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชน  เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน  พร้อมทั้งสนับสนุนให้ SMEs  เข้าถึงแหล่งเงินทุน  ลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ  และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
• กระจายความเจริญสู่ทุกภูมิภาค: หอการค้าไทยจะร่วมมือกับภาครัฐในการพัฒนาเศรษฐกิจในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะการเชื่อมโยงกับเขตเศรษฐกิจพิเศษ (EEC)  และการพัฒนาจังหวัดที่มีศักยภาพ  เช่น  ปราจีนบุรี  เพื่อกระจายรายได้และโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง
• สร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย: ในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน หอการค้าไทยจะทำงานร่วมกับรัฐบาลและภาคเอกชน  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งคนไทยและนักลงทุนต่างชาติ  โดยการผลักดันนโยบายที่เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานหอการค้าไทยของ ดร.พจน์  นับเป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจไทย  ที่พร้อมจะก้าวไปข้างหน้า  ด้วยวิสัยทัศน์  ความรู้ความสามารถ  และความมุ่งมั่นในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศชาติ