19 พฤศจิกายน 2024

THE MASTER

ย่อโลกข่าวไว้ในมือคุณ

ธุรกิจประกันชีวิตไตรมาส 3/64 เบี้ยรับรวม 4.39 แสนล้าน โต 2.28%

ประกัน/MLMNEWS

นายกสมาคมประกันชีวิตไทยเผย ไตรมาส 3 ปี 2564 มีเบี้ยประกันภัยรับรวมกว่า 4 แสนล้าน โตขึ้น 2.28% ส่วนเบี้ยควบการลงทุนได้รับความนิยมสูงสุด และโตขึ้น 88.86% ขณะที่ไตรมาส 4 เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และระบบการบริการแบบ 360 องศา ตอบโจทย์ความต้องทุกกลุ่มเป้าหมาย

นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ไตรมาส 3 ปี 2564 (มกราคม – กันยายน ) ธุรกิจประกันชีวิตมีผลงานเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 439,181.91 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.28 เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยจำแนกเป็นเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ จำนวน 123,132.24 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.42 และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไปจำนวน 316,049.67 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.41 และมีอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ประกันชีวิตร้อยละ 81

สำหรับเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ ประกอบด้วย (1) เบี้ยประกันภัยรับปีแรก จำนวน 67,401.62 บาท เติบโตลดลง ร้อยละ 9.61 (2) เบี้ยประกันภัยรับชำระครั้งเดียว จำนวน 55,730.62  ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น ร้อยละ39.12

โดยการจำหน่ายผ่านตัวแทนประกันชีวิตยังคงเป็นช่องทางการขายหลักของธุรกิจประกันชีวิต และสูงเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนเบี้ยประกันภัยรับรวม 217,489 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 0.47 ส่วนช่องทางการขายผ่านธนาคาร ขายผ่านนายหน้า ขายผ่านโทรศัพท์ ช่องทางอื่นๆ ช่องทางดิจิทัล และทางไปรษณีย์ มีอัตราเบี้ยประกันภัยรับรวมลดหลั่นกันตามลำดับดังกล่าว

ขณะที่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ได้รับความนิยมและมีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาได้แก่ ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 34,525 ล้านบาท เติบโตที่สูงถึงร้อยละ 88.86 และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพ มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 58,960 บาท เติบโตร้อยละ 9.28 และสัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง มีเบี้ยประกันภัยรับรวมประมาณ 11,428 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.53 และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญ มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 6,424  ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.37

สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ภาคธุรกิจประกันภัยยังต้องเผชิญโอกาสและความท้ายทายรอบด้าน แต่ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตให้มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการได้ทุกกลุ่มเป้าหมายและสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ควบคู่กับการพัฒนาช่องทางการขายในรูปแบบดิจิทัลและการบริการผ่านระบบออนไลน์ พัฒนาคุณภาพการบริการหลังการขาย รวมทั้งพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวแทนและนายหน้าประกันชีวิต โดยมุ่งพัฒนาทักษะเดิม เพิ่มเติมทักษะใหม่ ยกระดับความรู้ความสามารถ สร้างมาตรฐานการทำงานแบบชีวิตวิถีใหม่ พร้อมให้การบริการที่เป็นมืออาชีพ โดยยึดมั่นจรรยาบรรณและจริยธรรมในการประกอบอาชีพอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ธุรกิจประกันชีวิตให้เป็นที่น่าเชื่อถือ ไว้วางใจ

ภาคธุรกิจประกันชีวิตพร้อมยึดมั่นในข้อตกลงตามสัญญาที่ได้ออกให้แก่ผู้เอาประกันภัยทุกราย และจะปฏิบัติติตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยไปจนครบกำหนดสัญญา โดยบริษัทประกันชีวิตทุกบริษัทมีการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบด้าน ทั้งก่อนและหลังการรับประกันภัย สะท้อนให้เห็นจากการที่ธุรกิจประกันชีวิตมีความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ด้วยอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนที่ร้อยละ 323 ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 (ข้อมูลจากเว็บไซต์สำนักงาน คปภ.) นับว่าสูงกว่าระดับเงินกองทุนที่กฎหมายกำหนดที่ต้องดำรงตามเกณฑ์ที่ร้อยละ 120 และเพียงพอต่อการปฏิบัติตามข้อผูกพันในกรมธรรม์ประกันภัยทุกกรมธรรม์ที่ออกให้แก่ผู้เอาประกันภัย นายสาระ กล่าวปิดท้าย

Skip to content