ตำนานเห็ดหลินจือเมืองไทย

เขย่าขวดขายตรง  โดย.คมกริช..

ขายตรง/MLMNEWS/ธุรกิจเครือข่าย

หากมีคำถามว่าพืชสมุนไพรใด  ซึ่งเป็นที่ยอมรับเชื่อถือในคุณภาพมาอย่างยาวนานที่สุด นับเป็นเวลากว่า 1,000 ปี  คำตอบก็คือเห็ดหลินจือนั่นเอง เพราะสรรพคุณในเรื่องของการบำรุงบำบัดและฟื้นฟูสุขภาพ  ที่มีประวัติเรื่องลือตั้งแต่ประเทศจีนมาหลายราชวงศ์แล้ว   จนปัจจุบันเห็ดหลินจือก็ยังเป็นขวัญใจของผู้บริโภคประเภทผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่แพ้ผลิตภัณฑ์ ตัวอื่นๆ ในท้องตลาดโดยเฉพาะในวงการขายตรงเมืองไทย   เมิ่อย้อนประวัติศาสตร์ของเห็ดหลินจือในระบบขายตรงประเทศไทย  ก็ต้องยกให้บริษัทแด๊กซิน (ประเทศไทย) จำกัด  ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกเจ้าแรกราวปีพ.ศ 2538 หรือเมื่อ 27 ปีที่ผ่านมา  โดยมีบริษัทกาโน่เอ็กเซล(ประเทศไทย) จำกัด  เป็นผู้ผลิตป้อนสินค้าให้  และร่วมทำการตลาดขยายไปทั่วประเทศไทย   ซึ่งในช่วง 5 ปีแรกผู้บริหารทั้ง 2 บริษัท ร่วมแรงร่วมใจสมานฉันท์กัน   เป็นผลให้เห็ดหลินจือดังระเบิดเถิดเทิงในช่วงเวลานั้น  แต่เหมือนโดนคําสาปคล้ายกลุ่มศิลปิน   คือพอดังได้ระดับแล้วต้องแยกวง   ทั้ง 2 บริษัทนี้จึงต้องจำใจจำจาก  แบ่งผู้นำ แบ่งสมาชิกกัน  รวมทั้งแบ่งคอมพิวเตอร์ ที่เก็บข้อมูลสมาชิกกันด้วย เป็นเหตุการณ์ เมื่อเดือนสิงหาคม 2543 หลังจากนั้นก็แยกกันทำ ธุรกิจโดยเด็ดขาดไม่ขึ้นต่อกัน แต่ยังยึดสุภาษิตเดียวกันคือ  “ไก่เห็นตีนงู  งูก็เห็นนมไก่”  ปัจจุบันทั้ง 2 บริษัทก็พัฒนาตัวเองขึ้นเป็น

บริษัทขายตรง ที่มีผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือ  รากและดอก 6 สายพันธุ์เป็นตัวนำ   สร้างยอดขายได้ดีอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ    วันเวลาผ่านไปกระแสของเห็ดหลินจือยังมีมนต์ขลังแรงไม่แพ้จตุคามรามเทพในยุคนั้น   ผู้บริหารท่านหนึ่งของบริษัท แด๊กซิน   ก็ขอแยกตัวไปเปิดบริษัทใหม่ชื่อว่า  บริษัทซูรุย  (ประเทศไทย) จำกัด   แรกๆ ก็แรงจัดแต่พักหลังก็เงียบหายไป  อาจเข้ากลีบเมฆไปแล้วก็ได้   หลังจากนั้นอาถรรพ์เห็ดหลินจือ ยังไม่หมดในปี พ.ศ 2546 ผู้บริหารอีกท่านหนึ่งของบริษัทแด๊กซิน ก็เจริญรอยตาม  ขอแยกตัวไป เปิดบริษัทใหม่อีกชื่อว่า บริษัท ฮาดี้มาร์เก็ตติ้ง จำกัด   การดำเนินธุรกิจเวลานั้นก็อยู่ในเกณฑ์พอใช้  หลังจากนั้นอีก 1 ปีถัดมา  ผู้นำระดับสูงสุดตามแผนการตลาด  ของบริษัทแด๊กซิน  ก็ขอไปเป็น เจ้าของบริษัทบ้าง   หลังจากเป็นสมาชิก ผู้จำหน่ายอิสระมานาน  จึงออกไปเปิดบริษัทของตัวเองชื่อว่า บริษัทไลฟ์กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด   ซึ่งก็ได้สร้างกระแสคึกคักอยู่ในวงการขายตรงเวลานั้น..    20 กว่าปีผ่านไป   หากเปรียบบริษัทแด๊กซินเป็นแม่   ก็ได้คลอดลูกออกมาหลายคนแล้ว  บางคนก็โตแข็งแรงดี   บางคนก็มีอาการป่วยไข้บ้าง   และบางคนก็อยู่ในวัยคึกคะนอง แต่ในที่สุดแล้วแม่ก็ยังคงเป็นแม่ตลอดไป   แม้บางครั้งอาจรู้สึกเหนื่อยเมื่อยล้าและเสียใจในพฤติกรรมของลูกอยู่บ้าง   แต่แม่ก็ต้องอดทนอดกลั้น  และให้อภัยโดยไม่ยอมให้ใครเห็นน้ำตา   เราจึงขอยกย่องให้บริษัทแด๊กซิน (ประเทศไทย) จํากัด   เป็นตัวอย่างบริษัทแม่ที่ดีของวงการขายตรงเมืองไทย   ที่แตกแล้วโต  แถมยังอยู่ยงคงกระพันจนกระทั่งถึงทุกวันนี้…ขอสดุดี