บทบาทหน้าที่ของ ร.ต.ต.ดร.สุรเชษฐ์ เชื้อศรี นายกสมาคมการขายตรงไทย หรือ TDSA ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งไม่นาน ยังคงเดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์ของนายกสมาคมคนก่อนๆ อย่างต่อเนื่อง ในการส่งเสริมให้ประชาชนมีรายได้ที่เติบโตอย่างยั่งยืนในอาชีพธุรกิจขายตรง เพราะอุตสาหกรรมนี้ยังคงมีความสำคัญสามารถผลิตสถานการณ์พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสพลิกฟื้นวิถีชีวิตอาชีพของคนไทยสังคมเศรษฐกิจของประเทศไทยให้มีความมั่นคงและยั่งยืน
พร้อมมุ่งมั่นทำงานภายใต้ความถูกต้องและความยุติธรรม โดยยึดกฎจรรยาบรรณของสมาพันธ์การขายตรงโลก เพื่อต้องการให้คุณภาพชีวิตของนักธุรกิจดีขึ้น และร่วมกันส่งเสริมธุรกิจขายตงสีขาวเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีมีมาตรฐานในคุณภาพของสินค้า การบริการ ความรับผิดชอบ ตลอดจนตระหนังถึงการให้ความสำคัญของผู้บริโภคเป็นสำคัญ โดยเฉพาะการที่ธุรกิจขายตรงน้ำดี ยังคงต้องต่อสู่กับการกระแสของ Money Game หรือธุรกิจกลลวงที่มาในรูปแบบของธุรกิจขายตรงออนไลน์ ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญในวาระการดำรงตำแหน่งของการเป็นนายกสมาคมการขายตรงไทย ที่ต้องแยกแยะและสื่อสารตรงกับผู้บริโภคอย่างชัดเจน
การเปลี่ยนถ่ายวาระการทำหน้าที่ของนายกสมาคม TDSA คาบเกี่ยวกับการเปลี่ยนถ่ายวาระทางการเมืองของการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ โดยต่างกันแค่การทำหน้าที่ของแต่ละคนแต่ละบทบาท
โดยด้านของการนายกสมาคม TDSA เมื่อกำลังจะมีรัฐบาลใหม่เข้ามา จึงต้องการให้ผู้มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลธุรกิจขายตรง อย่าง สคบ. ชงเรื่องนำเสนอการแก้ไขพระราชบัญญัติกฎหมายขายตรงใหม่ที่ทันสมัยที่มีความเข้มข้นกว่าเดิม เพื่ออุดรูช่องโหว่ที่จะนำไปซึ่งมิจฉาชีพนำไปเป็นลู่ทางในการสร้างกลโกงหลอกลวงผู้บริโภคให้ตกเป็นเหยื่อสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นประเด็นที่นายก TDSA ทุกสมัยต่างพยายามผลักดันมาอย่างยาวนาน แต่ก็ไม่เคยเกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง
“ผมได้คุยกับท่านเลขา สคบ. ที่ต้องการให้รัฐบาลใหม่ปรับปรุงแก้ไข ในเรื่องของการแก้ไข พระราชบัญญัติกฎหมายขายตรงใหม่ที่ทันสมัย ให้เทียบทันกับอารยประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะบ้านใกล้เรือนเคียง เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน ที่มีกฎหมายขายตรงเข้มแข็ง และปัญหาในธุรกิจขายตรงในลักษณะแชร์ลูกโซ่เกิดน้อยมาก เพราะเมื่อกฎหมายเรายังอ่อนอยู่ ยังไม่นิ่ง ยังมีช่องว่างสำหรับมิจฉาชีพ ถ้ายังมีช่องว่างอยู่ จะทำให้มีมิจฉาชีพเกิดขึ้นเรื่อยๆ ภาพลักษณ์ของขายตรงที่ดีก็จะเสีย” นายกสมาคม TDSA กล่าว
นอกจากนี้ ร.ต.ต.ดร.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวถึงการเพิ่มทุนจดทะเบียนการเปิดบริษัทขายตรงของต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย จาก 1 ล้านบาท เป็น 10 ล้านบาท เพื่อป้องกันและป้องปรามไม่ให้ต่างชาติที่จะเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์กับคนไทยในทางลบลดน้อยลง
“ฝากรัฐบาลใหม่ในการช่วยแก้ไขปัญหา กฎหมายขายตรงข้อไหนที่ดีอยู่แล้วไม่ต้องแก้ไข แต่บางประเด็นควรเขียนเพิ่มเข้าไป หรือบางมาตราบางมาตราโทษปรับน้อยไป จึงต้องการให้ศึกษากฎหมายต่างประเทศที่มีความเข้มข้น และนำมาประยุกต์ใช้ เช่น มาเลเซีย หรือไต้หวัน เป็นต้น การไม่จดแจ้ง การใช้ข้อกฎหมายขายตรงชั้นเดียว ใครทำออนไลน์ กฎหมายเรายังไม่แก้ ทำให้มีปัญหาภายในระยะยาว อย่างหลายบริษัทที่ทำขายตรงแต่ก็ไม่ได้ผ่าน สคบ. ก็มีอยู่หลายบริษัท ซึ่งกฎหมายยังมีช่องว่าง ถ้ามีโอกาสในการช่วยกันแก้ไขเรื่องภาพลักษณ์ได้ ขอให้ช่วยกันแก้ไข หรือออกพระราชบัญญัติขายตรงใหม่ ทั้งป้อมทั้งปรามอย่างเข้มข้น ซึ่งต้องเข้มข้นเกินกว่า 50% จากที่มีอยู่คือโทษปรับมากขึ้น บริษัทต่างชาติที่มาลงทุนในประเทศเรา ขอให้เพิ่มทุนในการจดทะเบียนอย่างน้อย 10 ล้าน ปัจจุบันจดแค่ 1 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงไปยุคสมัยเปลี่ยนไป ซึ่งควรจะเพิ่มเติมข้อกฎหมาย” นายกสมาคม TDSA กล่าวทิ้งท้าย
More Stories
แอมเวย์ คว้า 2 รางวัล ผลิตภัณฑ์ในดวงใจคุณพ่อคุณแม่ไทย
ซัคเซสมอร์ เสริมแกร่ง เปิด 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ นิวทรินัล (Nutrinal)
J&C เปิดโอกาสทางธุรกิจดีๆที่พิษณุโลก