แพทย์ รพ.วิมุต ชี้ พบแพทย์-รักษาแต่เนิ่น ๆ ก่อนเจ็บหนัก
ต้องบอกว่าการเดินเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนเรา เพราะไม่ว่าจะไปทำงาน ไปเที่ยว หรือเดินทางไปไหนก็ต้องเดินไม่มากก็น้อย แต่ในบางคนเมื่อเดินเยอะ ๆ ก็รู้สึกว่ามีอาการขัดหรือรู้สึกเจ็บบริเวณเข่า ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของ “โรคข้อเข่าเสื่อม” ภาวะการเสื่อมของข้อเข่าที่พบมากในผู้สูงอายุ ทำให้รู้สึกเจ็บบริเวณข้อเข่าเวลาเคลื่อนไหว และหากปล่อยไว้ไม่รักษาอาจเจ็บมากจนกระทบการใช้ชีวิต วันนี้ นพ.สมยศ ปิยะวรคุณ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ แพทย์ผู้ชำนาญการ ข้อเข่าและข้อสะโพกเทียม ศูนย์กระดูกและข้อ รพ.วิมุต จะมาเล่าถึงลักษณะของโรคข้อเข่าเสื่อม พร้อมบอกวิธีการดูแลรักษาเพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพข้อเข่าที่ดี เดินไปไหนมาไหนได้อิสระตามใจต้องการ
วัยไหนก็ห้ามเมิน “โรคข้อเข่าเสื่อม”
โรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) หมายถึง ภาวะความเสื่อมของข้อเข่า ทั้งด้านรูปร่าง โครงสร้าง หรือการทำงานของกระดูกข้อต่อและกระดูกบริเวณใกล้ข้อต่อ รวมทั้งเนื้อเยื่อและเส้นเอ็นของข้อเข่า เมื่อไม่มีผิวกระดูกอ่อนมาห่อหุ้มทำให้เนื้อกระดูกชนกันขณะรับน้ำหนัก ทำให้เกิดอาการปวดเข่า เข่าบวม ข้อยึดติด และเมื่อผ่านไปนาน ๆ อาการจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนหัวเข่าผิดรูป ไม่สามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ตามปกติ ข้อเข่าเสื่อมแบ่งได้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มปฐมภูมิ เกิดขึ้นจากปัจจัยต่าง ๆ ที่ไม่มีสาเหตุชัดเจน เช่น การเสื่อมสภาพของข้อเข่าจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมักพบในช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป นอกจากนี้อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ น้ำหนักตัวที่มากเกินไป รวมถึงการใช้งานข้อเข่ามาก ๆ อีกกลุ่มคือ กลุ่มทุติยภูมิ คืออาการข้อเข่าเสื่อมที่มีสาเหตุบางอย่างเป็นตัวกระตุ้น เช่น อุบัติเหตุที่กระทบบริเวณข้อเข่า การติดเชื้อที่ทำให้หลั่งสารที่ทำลายกระดูกอ่อน ส่วนใหญ่กลุ่มนี้จึงเกิดกับคนที่อายุน้อย นพ.สมยศ ปิยะวรคุณ อธิบายเพิ่มเติมว่า “คนไข้บางโรคที่มีอาการอักเสบเรื้อรัง เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) ก็อาจทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น เพราะการอักเสบที่เป็นซ้ำๆ เป็นๆ หายๆ จะไปเร่งการเสื่อมของเนื้อเยื่อในข้อเข่า”
อาการแบบไหนเป็นสัญญาณ “โรคข้อเข่าเสื่อม”
โดยทั่วไปผู้ที่มีอาการข้อเข่าเสื่อมในระยะเริ่มต้นจะมีอาการปวดเล็กน้อยจากกิจกรรมในชีวิตประจำวัน หรืออาจมีอาการติดขัดข้อเข่า ยืดขาได้ไม่เต็มที่ “นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เข่าเริ่มมีเสียงกรอบแกรบจากการสึกของข้อเข่า ในบางกลุ่มอาจทำให้ข้อเข่าเปลี่ยนรูปทรง โดยส่วนมากจะมีภาวะข้อเข่าโก่ง และในส่วนน้อยข้อเข่าจะเกเข้าด้านใน ซึ่งทุกอาการจะมีอาการปวดร่วมด้วย และจะเจ็บมากขึ้นเรื่อย ๆ ดั้งนั้นถ้ามีอาการเหล่านี้จนรบกวนชีวิตประจำวันก็ควรมาพบแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษา” นพ.สมยศ ปิยะวรคุณ อธิบาย
ส่องวิธีการรักษา “โรคข้อเข่าเสื่อม”
สำหรับผู้ที่มีอาการเข้าข่ายโรคข้อเข่าเสื่อม แพทย์จะตรวจร่างกายด้วยการเอกซเรย์ และอาจตรวจด้วยเครื่อง MRI ร่วมด้วยในบางราย นอกจากนี้อาจเจาะเลือดเพิ่มเติมเพื่อตรวจดูปัจจัยเสี่ยงที่อาจมีผลทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น นพ.สมยศ ปิยะวรคุณ อธิบายถึงวิธีการรักษาว่า “การรักษาโรคนี้สามารถทำได้หลายวิธี อย่างแรกคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การลดน้ำหนัก การออกกำลังกาย การบริหารข้อ ต่อมาคือการรักษาด้วยการทานยาหรือการฉีดยาแก้ปวด เช่น สเตียรอยด์ ส่วนอีกวิธีคือการฉีดน้ำหล่อลื่นข้อเข่า ซึ่งการฉีดยาทั้งสองแบบช่วยลดอาการในระยะเวลาหนึ่ง แต่เมื่อฤทธิ์หมดก็จะกลับมาปวดเหมือนเดิม ดั้งนั้นทั้งสองวิธีจึงเหมือนเป็นการบรรเทามากกว่าจะเป็นการรักษา”
เปลี่ยนชีวิตด้วย “ข้อเข่าเทียม”
หนึ่งในการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมในปัจจุบันคือการผ่าตัดข้อเข่าเทียม ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพสูง ความเสี่ยงต่ำ และผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้เร็ว ซึ่งข้อเข่าเทียมในตอนนี้มีความใกล้เคียงข้อเข่าจริงมากขึ้น และใช้งานได้ยาวนานกว่า 20 ปีในคนไข้ส่วนใหญ่ โดยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมแบ่งได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ แบบเต็มเข่า คือการผ่าเปลี่ยนทั้งสองข้างทั้งด้านนอกและด้านใน แบบที่สองคือ แบบครึ่งเข่า คือการผ่าเปลี่ยนแค่ครึ่งที่มีปัญหา ซึ่งวิธีนี้สามารถเก็บเส้นเอ็นในข้อเข่าไว้ได้ ทำให้เคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า “ข้อเข่าเทียมนั้นสามารถใช้งานได้ใกล้เคียงข้อเข่าจริง แต่ต้องระวังกิจกรรมที่มีการพับงอเข่านานๆ เช่น เรื่องการคุกเข่า และหลีกเลี่ยงกีฬาที่ต้องใช้ข้อเข่ามาก ๆ เพราะข้อเข่าเทียมก็สึกหรอได้เหมือนเข่าจริง” นพ.สมยศ ปิยะวรคุณ อธิบาย
“หลายคนกังวลว่าถ้าเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมจะมีอาการหนักขึ้นต่อเนื่องจนเดินไม่ได้เลย แต่ในความจริงเรารักษาให้ดีขึ้นได้ด้วยวิธีการที่เหมาะสม อาจต้องปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ทำกายภาพบำบัด ใช้ยา หรือรักษาด้วยการผ่าตัดข้อเข่าเทียมก็ได้เช่นกัน ข้อเข่าของเราจะได้กลับมาแข็งแรงสมวัย ไม่ต้องมากังวลว่าจะเจ็บเวลาเดินไปไหนมาไหน”
นพ.สมยศ ปิยะวรคุณ กล่าวทิ้งท้าย
More Stories
วีเอชดี ส่ง เมอริช คอฟฟี่ ชิงตลาดกาแฟสุขภาพ 3.4 หมื่นลบ.
BDMS Wellness Clinic คว้ารางวัล CEO of the Year 2024 จาก Bangkok Post
SOLUX Clinic เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ตอกย้ำความสวยที่มีระดับ (พรีเมียม)