เสริมแกร่งชาติอาเซียนรับมือโรคระบาดใหญ่และป้องกันโรคติดเชื้อแบบแพร่กระจายทางอากาศ
กรุงเทพ – แพลตฟอร์มป้องกันการติดเชื้อแบบแพร่กระจายทางอากาศ (Airborne Infection Defense Platform) หรือ AIDP เปิดตัวอย่างเป็นทางการเพื่อมุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการรับมือวัณโรค ระบบสาธารณสุข และ การเตรียมพร้อมรับมือโรคระบาดของชาติอาเซียน เพื่อจัดการปัญหาการติดเชื้อทางเดินหายใจแบบแพร่กระจายทางอากาศที่เพิ่มขึ้น วัณโรคเป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ติดต่อจากคนสู่คนผ่านอากาศ โดยเมื่อผู้ป่วยไอ จาม ไม่ปิดปากทำให้เกิดละอองฝอย ผู้อยู่ใกล้สูดหายใจเอาละอองฝอยที่มีเชื้อวัณโรคเข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดการติดเชื้อและป่วยได้ โดยวัณโรคพบได้ทุกส่วนของร่างกาย แต่ที่พบมากคือวัณโรคปอด จากสถิติของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าสถานการณ์วัณโรคทั่วโลกจาก ‘องค์การอนามัยโลก’ ระบุว่า แต่ละปีมีผู้ป่วยประมาณ 10 ล้านคน โดยในปี 2566 สถานการณ์ผู้ป่วยวัณโรคในประเทศไทยประมาณการจำนวนผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ 111,000 คน แต่มีการรายงานการขึ้นทะเบียนรักษาเพียง 72,274 คน และเสียชีวิตจากวัณโรค ปีละ 13,700 คน โดยเป็นผู้ป่วยวัณโรคที่ติดเชื้อเอชไอวีร่วมด้วยเสียชีวิต 2,100 คน สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูงที่มีโอกาสจะป่วยเป็นวัณโรค ประกอบไปด้วย กลุ่มผู้สัมผัสผู้ป่วยวัณโรคปอด กลุ่มผู้ต้องขังผู้อาศัยในสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ/สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ผู้ติดเชื้อ HIV ผู้ป่วยโรคที่ทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ ผู้ป่วยไตเรื้อรังหรือได้รับยากดภูมิ กลุ่มผู้สูงอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 65 ปีที่สูบบุหรี่หรือมีโรคร่วม ปอดอุดกั้นเรื้อรัง เบาหวาน กลุ่มผู้ใช้สารเสพติด ติดสุราเรื้อรัง และกลุ่มบุคลากรสาธารณสุข
การเปิดตัวโครงการริเริ่มนี้เป็นกิจกรรมคู่ขนานของการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนครั้งที่ 16 (The 16th ASEAN Health Ministers Meeting) หรือ AHMM ซึ่งมีผู้นำภาครัฐเข้าร่วม อาทิ ดร.บุนแฝง พูมมะไลสิต รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของสปป.ลาว พ.ต.ต.หญิง สุรีย์วัลย์ ไทยประยูร รองผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ และพันธมิตรนานาชาติเพื่อการต่อต้านวัณโรค (Stop TB Partnership) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมรับมือโรคระบาดและวัณโรคในภูมิภาคอาเซียน ยกระดับความร่วมมือของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และเพิ่มความสามารถของชาติอาเซียนในการจัดการปัญหาการติดเชื้อทางเดินหายใจแบบแพร่กระจายทางอากาศ
ในการประชุมผู้นำ พ.ต.ต.หญิง สุรีย์วัลย์ ไทยประยูร รองผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ จากประเทศไทย กล่าวว่า “การแก้ไขปัญหา วัณโรค เป็นหนึ่งในหัวใจหลักประเทศไทยให้ความสำคัญ เช่นเดียวกับเมื่อเริ่มมีการระบาดของโควิด-19 ซึ่งเราเพิ่มมาตรการในการค้นหาผู้ป่วยที่ยังคงอยู่ในเรือนจำ นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยจำนวนมากในพื้นที่ชายแดน นั่นจึงเป็นที่มาในความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เราหวังที่จะรักษาและเสริมสร้างเครือข่ายท้องถิ่น ทบทวนการทำแผนกลยุทธ์ และทำความเข้าใจว่าจำเป็นต้องมีความร่วมมือเพื่อรับมือกับโรคระบาดและกำจัดวัณโรคให้ดียิ่งขึ้น เราหวังที่จะสร้างภาวะผู้นำร่วมกัน ถ่ายทอดความรู้จากสถาบันการศึกษา ตลอดจนประสบการณ์ความเป็นผู้นำ เพื่อให้ทุกคaนมีความเข้าใจและความสำคัญของวัณโรคร่วมกัน”
รายงานวัณโรคโลกประจำปี 2023 ประเมินว่า มีประชากรอาเซียนมากกว่า 2.4 ล้านคนติดเชื้อวัณโรค โดยชาติอาเซียน 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม อยู่ในบัญชีขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในฐานะประเทศที่มีภาระด้านวัณโรคสูง นอกจากนี้ การระบาดของ Covid-19 ได้ทำลายโปรแกรมป้องกันและการรักษาวัณโรคระดับชาติ เนื่องจากต้องนำบุคลากรและทรัพยากรของโครงการด้านวัณโรคไปใช้เพื่อจัดการปัญหา Covid-19 ดังนั้นจึงมีการประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตเพราะติดเชื้อวัณโรคเพิ่มขึ้นเกือบ 5 แสนคนในช่วงปี 2020-2022 AIDP มีเป้าหมายเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อทางเดินหายใจแบบแพร่กระจายทางอากาศ โดยทำงานร่วมกับชาติสมาชิกอาเซียนและองค์กรสำคัญระดับโลกเพื่อตกลงด้านนโยบายและวิธีการ รวมถึงแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ การใช้โครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีแพลตฟอร์มและบุคลากร เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับผู้ป่วยวัณโรคและความพร้อมรับมือโรคระบาด
ศาสตราจารย์นายแพทย์จันดรา โยคะ อดิตามะ ที่ปรึกษาอาวุโสของ STPI และหัวหน้าโครงการ AIDP กล่าวว่า “การระบาดของ Covid-19 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากแสดงให้เห็นว่า โลกไม่ได้พร้อมรับมือการติดเชื้ออย่างรวดเร็ว นอกจากที่จะทำให้สูญเสียชีวิตมนุษย์แล้ว Covid-19 ยังส่งผลกระทบรุนแรงต่อโปรแกรมป้องกันและรักษาวัณโรค สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันภายในอาเซียน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบรับมือวัณโรค ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความสามารถในการรองรับผู้ป่วยวัณโรคแล้ว ยังเพิ่มการเตรียมพร้อมรับมือโรคระบาดอีกด้วย” จากการประเมินในภาพรวม AIDP จะมุ่งเน้นการเสริมสร้างการรับมือการระบาดของวัณโรคระดับพื้นที่ของแต่ละประเทศอาเซียน รวมถึงชุมชนและการดูแลปฐมภูมิ โดยปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขที่มีอยู่แล้ว เพื่อปรับปรุงการตรวจหาโรค การรักษา และการป้องกัน นอกจากนี้ จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีแพลตฟอร์มที่มีการพัฒนามากขึ้นนับตั้งแต่เกิดการระบาด Covid-19 เช่นเครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลแบบพกพา ที่ช่วยให้สามารถตรวจสอบโรคได้ในพื้นที่ในท้องถิ่น โดยคนไม่จำเป็นต้องเดินทางไปโรงพยาบาลหรือคลินิก เทคโนโลยีวินิจฉัยทางโมเลกุลอย่างรวดเร็ว และเครื่องมือเฝ้าระวังดิจิทัลแบบเรียลไทม์ มาตรการต่างๆ ในการเตรียมความพร้อมสำหรับวัณโรคเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ในการเผชิญกับโรคระบาดในอนาคต ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะเป็นโรคติดเชื้อทางอากาศ
ดร. สุวนันด์ ซาฮู รองผู้อำนวยการบริหาร พันธมิตรนานาชาติเพื่อการต่อต้านวัณโรค (Stop TB Partnership) กล่าวว่า “ในการดำเนินงานระยะแรก AIDP จะเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ โดยประเมินสถานการณ์ใน 10 ประเทศอาเซียน ซึ่งจะสรุปความสามารถในปัจจุบันของแต่ละประเทศในการรับมือวัณโรคและการระบาดของโรคติดเชื้อแบบแพร่กระจายทางอากาศในอนาคต และแนะนำการปฏิบัติเพื่อเตรียมพร้อมรับมือการระบาดให้ดีขึ้น จากนั้นในระยะที่ 2 จะมีการสนับสนุนกิจกรรมสาธารณสุขปฐมภูมิและระดับชุมชน เพื่อเพิ่มความสามารถในการเตรียมพร้อมรับมือวัณโรคทั่วอาเซียน เพื่อรับมือการติดเชื้อทางเดินหายใจแบบแพร่กระจายทางอากาศหรือการระบาดใหญ่ได้ดียิ่งขึ้น เราขอบคุณ USAID สำหรับความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการแก้ปัญหาวัณโรคทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งความพยายามดังกล่าวทำให้เกิดการจัดตั้ง AIDP เราขอขอบคุณรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สำหรับความเป็นผู้นำในการจัดการประชุมครั้งแรกเกี่ยวกับ AIDP” วัณโรคมีอัตราการเสียชีวิตในระดับสูงหรือ 15% เทียบกับ Covid-19 ที่มีอัตราการเสียชีวิต 3.5% การวิจัยของ Hogan et al (2020) ระบุว่าการป้องกันและรักษาวัณโรคได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญระหว่างเกิดการระบาดของ Covid-19 ซึ่งมีการตรวจสอบเคสผู้ป่วยวัณโรคลดลง มีการติดเชื้อวัณโรคภายในครัวเรือนเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีน BCG ลดลง และการเข้าถึงยาและการทดสอบเชื้อวัณโรคลดลง
More Stories
วีเอชดี ส่ง เมอริช คอฟฟี่ ชิงตลาดกาแฟสุขภาพ 3.4 หมื่นลบ.
BDMS Wellness Clinic คว้ารางวัล CEO of the Year 2024 จาก Bangkok Post
SOLUX Clinic เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ตอกย้ำความสวยที่มีระดับ (พรีเมียม)