ขายตรง/MLMNEWS
มีผลงานวิจัยด้านสมุนไพรไทยที่ถูกคิดค้นวิจัยและพัฒนาต่อยอดด้วยฝีมือนักวิจัยไทยเพื่อเป็นตัวยาในการบรรเทา รักษา ป้องกันโรคได้เกิดขึ้นมากมาย ซึ่ง ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร เป็นหนึ่งในนักวิจัยของไทยที่ศึกษาวิจัยงานด้านสมุนไพรชนิดต่างๆ มากว่า 40 ปี ด้วยความมุ่งมั่นในการยกระดับสมุนไพรไทยให้เป็น “สมุนไพรแนวนวัตกรรมใหม่” ที่สามารถส่งต่อผลิตภัณฑ์สมุนไพรทางเลือกให้กับคนไทยเพื่อใช้รักษา บรรเทา หรือบำบัด อาการของโรคให้ทุเลาเบาบางลง จึงนำมาสู่การจัดตั้งเป็น “บริษัท ซีซีไอ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด” ขึ้น ภายใต้บริษัท ดีท็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เป็นบริษัทเริ่มต้นของการผลิตสินค้านวัตกรรมสมุนไพรไทย พร้อมสถาบัน NSPI ที่แข็งแกร่งด้านนวัตกรรมการวิจัยระดับโลก และส่งต่อผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย เพื่อจัดจำหน่ายผ่านซีซีไอ โดยมี ดร.ณสพน เป็น ประธานกรรมการบริหารบริษัท
ทีมข่าว MLM News Online ได้พูดคุยกับ ดร.ณสพน โพธิ์วิจิตร ซึ่ง ดร.ณสพน บอกว่า สมุนไพรของไทยเป็นของดี หากรู้จักวิธีการใช้สารสกัดในสมุนไพรแต่ละชนิดอย่างถูกต้อง จะทำให้ได้สมุนไพรที่ใช้บรรเทา รักษา หรือบำบัด อาการของโรคอย่างเห็นผล ซึ่งสมุนไพรแต่ละชนิดมีข้อดีและข้อด้อยต่างกันไป โดยในกระบวนการผลิตนั้น หากมีการใช้สารละลายเพื่อสกัดสารในสมุนไพรที่ไม่ถูกต้องแล้ว จะทำให้ไม่ได้สารสกัดออกฤทธิ์ที่ดีตัวนั้นออกมา อย่างเช่น “ขมิ้นชัน” ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่การใช้ประโยชน์ทางยาจริงๆ แทบไม่ได้ผลเลย เพราะมีข้อด้อยคือไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ แต่เราสามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้สำเร็จ จนได้รับรางวัลการประกวดผลงานนวัตกรรม และสร้างชื่อเสียงให้ตนไปถึงต่างแดน
ด้วยทีมนักวิจัยจากต่างประเทศ และห้องแล็ปที่สามารถควบคุมคุณภาพมาตรฐานได้ ทำให้มีผลงานวิจัยสมุนไพรหลายชนิดในซีซีไออีกกว่า 50 รายการ ที่ ดร.ณสพน และทีมนักวิจัย ได้ส่งต่อการรักษา บรรเทา บำบัดในโรคที่เป็นความเสี่ยงต่างๆ และมีการวิจัยพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิมให้มีคุณภาพการดูดซึมที่ดีขึ้น และลดปริมาณการใช้ลง ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีหน้าคาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์สำหรับกำจัดไขมันในช่องท้อง และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการดูแลตับ สำหรับผู้ที่ดื่มแอลกอลฮอล ออกมาสู่ผู้บริโภคด้วย
“เราไม่เคยหยุดนิ่งกับงานวิจัย แต่ละปีเราใช้เงินทำการวิจัยไม่ต่ำกว่าปีละ 30 ล้านบาท เพื่อพัฒนาสินค้ารักษา บรรเทา บำบัด ในโรคความเสี่ยงของร่างกาย ซึ่งเป็นโรคที่ไม่ได้มาจากการติดเชื้อแต่เกิดความเสี่ยง เช่น สายตา ข้อเข่า ตับ ไต และโรคอื่นๆ ช่วยให้ฟื้นฟูขึ้นมาได้” ดร.ณสพน กล่าว
มีสมุนไพรจำนวนมากที่นำมาใช้และจดทะเบียนอย่างถูกต้อง แต่ก็มีสมุนไพรอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถนำมาใช้ได้ จึงทำให้คุณค่าของสมุนไพรเหล่านั้นถูกตีกรอบไว้ได้เพียงแค่ชื่อเท่านั้น
“อุปสรรคของสมุนไพรที่ประเทศเรามีนั้น เพราะมีผู้ชำนาญที่มีความรู้ด้านสมุนไพรน้อยมาก และเกิดจากกฎหมายที่ยังตามไม่ทันถึงความทันสมัยของวิชาการที่ก้าวไปไกล โดยยังใช้กฎหมายเก่าๆ เป็นตัวคุมอยู่ จึงทำให้สมุนไพรเหล่านั้นถูกจำกัด ไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมได้” ดร.ณสพน กล่าว
การทำธุรกิจเพียงหวังให้สมุนไพรไทยเป็นนวัตกรรมทางเลือกใหม่ในการบำบัดแล้ว ดร.ณสพน ยังทุ่มงบซื้อที่ดินที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 10 ไร่ เพื่อสร้างโรงงานผลิตน้ำยาล้างไต และสร้าง “ศูนย์ฟอกไต” บริการคนไทยทั่วประเทศในราคาย่อมเยา และการลงทุนสร้างศูนย์ “เวลเนสเซ็นเตอร์” บนพื้นที่ 85 ไร่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรองรับผู้ป่วยด้วยการรักษาด้วยผลิตภัณฑ์สมุนไพรนวัตกรรมใหม่ของซีซีไอ
“ทั้งหมดที่ทำ นอกเหนือการทำธุรกิจเราต้องการตอบแทนสังคมด้วย โดยเห็นว่าปัจจุบันมีผู้ป่วยไตประมาณ 8 ล้านคน แต่มีผู้ป่วยที่ฟอกไตเพียง 4 หมื่นคน คาดว่าส่วนที่เหลืออาจไม่มีเงินที่ใช้ในการฟอกไต จึงตั้งใจสร้างศูนย์ฟอกไตขึ้นมารองรับผู้ป่วยโรคไต รวมถึงการสร้างศูนย์เวลเนสเซ็นเตอร์ จะเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงผลลัพธ์ของการรักษา บรรเทา บำบัด ด้วยสมุนไพรได้อย่างเห็นผล นอกจากนี้เรายังมอบอุปกรณ์การแพทย์ เครื่องผลิตออกซิเจน 30 เครื่อง ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ได้ใช้ประโยชน์โดยเฉพาะในผู้ป่วยโควิด” ดร.ณสพน กล่าว
ดร.ณสพน ระบุว่า ซีซีไอ ขับเคลื่อนด้วยสินค้าที่โดดเด่นที่มาจากงานวิจัยในราคาที่จับต้องได้ ในขณะเดียวกันยังมีความพร้อมของดิจิคอลดิสรัปชั่นที่ค่อนข้างมีความสมบูรณ์ ตลอดจนมีตึกของซีซีไอ ที่สร้างบนถนนวิภาวดี มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท รองรับการทำงานของสมาชิกในวิถี New Normal ผ่านระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้สมาชิกสามารถทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วย
สำหรับยอดขายครึ่งปีแรกนั้น ซีซีไอมีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าเดือนละ 30 ล้านบาท ขณะที่ช่วงปลายปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม ตั้งเป้ายอดขาย 4 เดือน รวมประมาณ 100 -120 ล้านบาท
More Stories
ออกรถมือสองต้องเตรียมอะไรบ้าง
“กิฟฟารีน” เปิดกระหึ่ม “Giffarine Flagship Store” ภูเก็ต เจาะใจกลางเมือง รับทัพลูกค้าไทย-นักท่องเที่ยวต่างชาติ
แอมเวย์ สร้างความสุข ส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดี ส่งท้ายปี